บริเวณที่พบ : หน้าห้องน้ำเกษตร
ลักษณะพิเศษของพืช : ไม้ดอกประดับสีชมพู
ลักษณะทั่วไป : ไม้พุ่มขนาดใหญ่หรือไม้ต้นขนาดเล็กผลัดใบ เรือนยอดรูปไข่ แผ่กว้างบางครั้งมีลักษณะเป็นพุ่มโปร่ง
เปลือกต้นเรียบ สีน้ำตาลเป็นมัน มีสะเก็ดสีขาวลอกเป็นแผ่น
ต้น : สีเทาเกือบขาว ลอกได้เป็นแผ่นบางๆ
ใบ : ใบเดี่ยวเรียงสลับ ใบรูปไข่กว้าง 1-2 เซนติเมตร ยาว 3-4.5 เซนติเมตร ปลายใบแหลมโคนใบมนขอบใบเรียบ
ผิวใบด้านบนสีเขียวเช้มมีขนสากตามเส้นกลางใบและเส้นใบ ผิวใบด้านล่างสีเขียวอ่อนกว่าก้านใบสั้น
ดอก : สีขาว ชมพู และม่วง ออกเป็นช่อแบบช่อแยกแขนงที่ปลายกิ่ง กลีบเลี้ยงสีเขียว กลีบดอก6 กลีบ ปลายกลีบดอกแผ่กว้างเป็นลอนคลื่น
โคนกลีบเรียว ดอกบานเต็มที่กว้าง 3-5 เซนติเมตร
ผล : ผลเเห้งแตก รูปถ้วย เปลือกเเข็ง มีเมล็ดจำนวนมาก
การขยายพันธุ์ : ใช้เมล็ดหรือกิ่งตอนปลูก
ประโยชน์ :
ราก ใช้ต้มกับหมูรับประทานแก้ปวดฟัน ใช้รากแห้ง 3 - 10 กรัม หรือรากสด 15- 30 กรัม ต้มน้ำรับประทานแก้บิดแก้ฝีมีหนอง ทำให้โลหิตหมุนเวียนดี ใช้บดเป็นผงทาแผล
ใบ ใช้ตำพอกทาแก้ผดผื่นคัน รักษาแผลสด แผลมีน้ำเหลือง ใช้ใบสดหนัก 15-30 กรัม หรือใบแห้งหนัก 3-10กรัม ต้มนำรับประทานแก้บิด
ดอก ใช้ดอกสดต้มรับประทานทั้งกาก แก้ตกเลือดหลังคลอด ใช้ดอกแห้งบดเป็นผง ผสมน้ำส้มสายชูทาฝีมีหนอง
สิวมีหนอง ใช้ดอกสดหรือแห้ง ต้มนรับประทานแก้โรคหนองใน แผลฝี กลากเกลื้อน